วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ต่อ

ที่ตั้งและภูมิประเทศ

) มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ เป็นเมืองชายแดนก่อนจะข้ามไปสู่แคว้นบาวาเรียของประเทศเยอรมนี เรียกว่าระยะทางแค่ปาหินถึงเท่านั้นเอง เมืองซาลส์บวร์กอยู่ทางตะวันออกของมิวนิกประมาณ 150 กิโลเมตร สามารถใช้ตั๋วรถไฟ Bayern ticket ของรัฐบาวาเรียในประเทศเยอรมนีได้มาถึงเมืองนี้ได้ เป็นเมืองน่ารักงดงามทั้งผู้คน ธรรมชาติ และอาคารบ้านเรือน ซาลส


เมืองซาลส์บวร์กตั้งอยู่ริมแม่น้ำซาลส์ซักค์ (Salzachบวร์ก มีจุดเด่นคือน้ำในแม่น้ำซาลจะมีสีออกเขียวมรกตสวยงามมาก สาเหตุเพราะมีเกลืออยู่มาก เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีเหลือปะปนอยู่ในดินมากกว่าที่อื่นจึงได้ชื่อว่า ซาลสบวร์ก แปลว่า ปราสาทเกลือ เมืองนี้ตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่างอินส์บรูคและเวียนนาจึงมีลักษณะที่กึ่งภูเขากึ่งที่ราบ ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองจะเป็นภูเขา ซึ่งมียอดเขาสูงให้นักท่องเที่ยวนั่งรถกระเช้าขึ้นไปสัมผัสกับหิมะ ในขณะที่ทิศตะวันออกจะเป็นที่ราบเป็นที่ตั้งของตัวเมือง









ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์





คำว่าซาลส์ (Salz) ในภาษาเยอรมันแปลว่าเกลือ ซาลส์บวร์กแปลตามตัวได้ว่าปราสาทเกลือ ซึ่งเป็นคำเปรียบเทียบเรือขนเกลือว่าเหมือนเป็นปราสาทเกลือ ดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือเก่าแก่มาแต่โบราณ เกลือทำหน้าที่ถนอมอาหาร ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในแถบเมืองหนาว ฉะนั้นใครมีเกลือจึงเปรียบเสมือนมีทองคำเลยทีเดียว แถวนี้จึงมั่งคั่งร่ำรวยมาตั้งแต่อดีตยุคโรมัน

ซาลส์บวร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของออสเตรีย (www.ana.com) และมีผู้คนเดินทางมาเยือนเป็นอันดับ 2 รองจากเวียนนาตั้งขึ้นมาก่อนยุคโรมัน และก้าวขึ้นสู่ยุครุ่งเรืองที่สุดในศตวรรษที่ 16 และ 17 โดยเป็นแคว้นอิสระภายใต้การปกครองของอาร์คบิชอปผู้ครองแคว้นซาลส์บวร์ก ร่ำรวยมาจากการทำเหมืองเกลือและค้าขาย (ซาลส์บวร์กแปลว่าเมืองแห่งเกลือ) การที่อาคารโบราณสถานต่างๆ ที่ยังคงรักษาสภาพเหมือนเมื่อ 300 กว่าปีก่อนไว้



ในอดีตซาลส์บวร์กเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยอาร์ชบิชอป (archbishop) ซึ่งเป็นตำแหน่งของพระในศาสนาคริสต์นิกายแคทอลิก (เช่นเดียวกับที่วาติกันถูกปกครองด้วยพระสันตะปาปา) จึงเป็นศูนย์กลางของศาสนาทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น